"น้ำปลูกปั่นใช้ผลิตผลจากเกษตรอินทรีย์ 80-90% ส่วนที่เหลือเราหาที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะหาได้มาจากสวนเกษตรอินทรีย์ ทั้งเล็กใหญ่ และเครือข่ายเกษตรกร กลุ่มต่างๆทั่วประเทศ โดยเน้นว่าเป็นการปลูกตามวิถีเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารเคมี

โดยเราจะมีการไปเยี่ยมชมเกือบทุกที่ รวมทั้งขอตรวจสอบใบรับรองต่างๆ ตลอดจนการไปอบรมเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมเพื่อเป็นเกษตรกร การอบรมเพื่อเป็นผู้แปรรูป เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย และมีการติดตามความรู้ด้านการผลิตผลทางการเกษตรแบบอินทรีย์ ปลอดภัย ไร้สารโดยตลอด

ที่สำคัญ เราตั้งใจใช้วัตถุดิบภายในประเทศเท่านั้น เพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย และเพื่อให้แน่ใจว่าผักผลไม้เดินทางมาไม่ไกลเกินไป ยังคงความสดได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมีระหว่างการขนส่ง"

"สมาชิกที่ไม่สะดวกคืนขวดทุกวัน สามารถซื้อขวดเพิ่มได้ตามจำนวนที่ต้องการและชำระค่าแบกขวดกลับ +10 บาท/ขวด/ครั้งที่ส่งคืนปลูกปั่น
ท่านสมาชิกที่ไม่ได้คืนขวด ขวดแรกเราจะบอกกล่าวเพื่อขอความร่วมมือ ขวดที่สองเราจำเป็นต้องขอค่าแบกขวดกลับ 10 บาท/ขวด
ขวดที่สามเราจะจัดส่งน้ำปลูกปั่นในถุงกระดาษ ซ้อนด้วยถุงพลาสติกย่อยสลายได้เป็นการทดแทน"

"วิธีดื่มน้ำปลูกปั่นที่ถูกต้องคือ ไม่ควรกลืนทันที ควรเคี้ยวประมาณสิบคำเพื่อให้น้ำลายในปากออกมาคลุกเคล้ากับน้ำปลูกปั่น

น้ำลายจะย่อยสารอาหารบางตัวก่อนจะลงไปกระเพาะอาหาร ทั้งยังเป็นการกระตุ้นร่างกายให้เตรียมย่อยน้ำปลูกปั่นที่กำลังจะลงไปในระบบย่อยอื่นๆต่อไป

ควรดื่มช้าๆ ค่อยๆจิบเพื่อให้อินทรีย์สารจากพืชถูกดูดซับให้มากที่สุด

ควรทานเมื่อท้องว่างหรือก่อนอาหาร 30-60 นาที เคี้ยวสิบคำก่อนกลืน

ถ้าค่อยๆ ทานแล้วใช้ประสาทรับรสแต่ละรสของวัตถุดิบได้จะดีที่สุด"

ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลค่ะ หากทานแล้วรู้สึกอิ่ม จะแทนมื้ออาหารไปเลยก็ได้ หากไม่อิ่มให้ทิ้งช่วงย่อยประมาณ 30 นาทีค่อยทานอาหารค่ะ

เพื่อคุณค่าทางโภชนาการ หากไม่สะดวกดื่มในตอนเช้า ควรเก็บในตู้เย็นช่องปกติ และดื่มไม่เกิน 17:00 น. ค่ะ

ถ้ารู้สึกว่าน้ำที่ได้รับเข้มข้นเกินไปสามารถเติมน้ำได้นะคะ เพื่อให้ทานง่ายขึ้น แต่ยังคงต้องเคี้ยวเหมือนเดิม

โดยหลักแล้วจะมีตัวยืนพื้นที่ควรใส่เป็นประจำเช่น แครอท มะเขือเทศ บีทรูท กล้วย ฝรั่ง สับปะรด และผักใบเขียว โดยคำนึงถึงสมดุลร้อนเย็น และมีวัตถุดิบพิเศษสลับสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เพราะธรรมชาติได้กำหนดฤดูกาลของผักผลไม้มาให้เหมาะสมกับอุณหภูมิที่เปลี่ยนไปอยู่แล้วค่ะ เราจึงคล้อยตามธรรมชาติไปด้วย

ถ้าสมาชิกมีอาการแพ้หรือไม่สามารถทานได้จริงๆ สามารถแจ้งเข้ามาพร้อมใบสมัคร เราจัดให้เหมาะกับท่านได้ค่ะ

"คนส่วนใหญ่ในเมือง มักมีจุลินทรีย์สายไม่ค่อยดีในปริมาณที่มากกว่าสายดีในร่างกายมาก จุลินทรีย์สายไม่ดีมักทำให้อ้วน รวนฮอร์โมน ระบบเผาผลาญเสื่อมถอย เพราะอาหารที่สายนี้โปรดปรานเป็นอาหารประเภทแป้งขาว น้ำตาล โปรตีน ไขมันนมเนยจากสัตว์

การกินน้ำปลูกปั่นเป็นการกินอินทรียสารจากพืชแบบสดๆ เพื่อไปเลี้ยงจุลินทรีย์สายดีในร่างกาย เมื่อจุลินทรีย์สายดีได้รับการเลี้ยงดูก็จะเจริญเติบโต จนมีปริมาณที่ฟัดเหวี่ยงกับสายไม่ดีได้ เมื่อปริมาณจุลินทรีย์สายดีมากพอ ระบบต่างๆจะกลับมา เราจะอยากอาหารประเภทนมเนยแป้งขาว น้ำตาล โปรตีนจากพืช น้อยลงไปเอง ก็จะมีผลต่อน้ำหนักตัวในระยะยาว

เรียกได้ว่าเป็นการรักษาสมดุลน้ำหนักให้เหมาะสม ไปได้แบบยั่งยืนนั่นเองค่ะ

อย่างไรก็ตาม ปลูกปั่นเป็นเพียงตัวช่วย ที่สำคัญคุณต้องดูแลตัวเอง อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นเช้าออกไปรับแสงแดดสีทอง ทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง งดแอลกอฮอล์ บุหรี่ และหาเวลาออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรค่ะ"

โดยปกติแล้วเมื่อต้องการบอกยกเลิกการส่งน้ำเป็นรายวัน ควรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน หรือถ้าเป็นเหตุกระชั้นชิด สามารถบอกล่วงหน้าได้ก่อน 15:00 แต่ถ้ามีเหตุสุดวิสัยสามารถคุยกันอย่างจริงใจได้นะคะ ทั้งนี้ เพราะการส่งน้ำปั่นคุณภาพไปสู่มือสมาชิก มีการเตรียมการล่วงหน้าในทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่วัตถุดิบ คิวนักปั่น เส้นทางปั่น เป็นสัปดาห์ จึงต้องขอความร่วมมือแจ้งล่วงหน้าค่ะ

"เนื่องจากปลูกปั่นเป็นธุรกิจสีเขียว เราจึงพยายามลดขยะบนโลกนี้ให้มากที่สุด โดยการใช้ระบบให้สมาชิก ล้างบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ด้วยตนเอง และนำมาเปลี่ยนเป็นน้ำปลูกปั่นแก้วใหม่ในวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้เมื่อปลูกปั่นได้รับแก้วคืนมาแล้ว เรามีการล้างทำความสะอาดด้วยระบบโอโซนผ่านความร้อนอีกครั้ง หมดห่วงเรื่องความสะอาดปลอดภัยได้นะคะ

ด้วยความร่วมมือนี้ เราจะเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนที่เกิดจากขยะ ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้คนรุ่นลูกหลานได้มีสิ่งแวดล้อมดีๆ กันต่อไปค่ะ"

นักปั่นของเราจะออกจากร้าน 4:00 น. และไล่ส่งตามเส้นทาง โดยทั้งหมดจะต้องส่งถึงมือสมาชิกไม่เกินเวลา 11:00 น. ถ้ามีเหตุฉุกเฉินทำให้เวลาเปลี่ยนแปลง สมาชิกจะได้รับการแจ้งล่วงหน้า

นักปั่นปลูกปั่นเป็นยอดมนุษย์ที่ปลอมตัวมาเป็นคนธรรมดา แฝงตัวอยู่ในหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น เป็นนักศึกษา นักดนตรี นักกีฬา นักออกแบบ วิศวกร นักจิตวิทยา พ่อครัว แม่ค้า ผู้ช่วยช่างภาพ เจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฯลฯ พวกเขารักการปั่นจักรยานเป็นชีวิตจิตใจ มีอัธยาศัยดี น่ารัก สุภาพ และมีหัวใจยิ่งใหญ่ที่อยากดูแลผู้คน โดยปลูกปั่นมีการสอบสัมภาษณ์ บันทึกประวัติส่วนตัว ทดสอบความสามารถด้านทิศทาง การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และขั้นตอนมากมายกว่าจะได้มาเป็นหนึ่งในทีม "นักปั่นปลูกปั่น" ผู้แข็งแกร่งบนท้องถนน